แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า เรื่องและภาพ
*ยกเว้นภาพช่องเขาขาดถ่ายโดย นพรัตน์ ละมุล
ตีพิมพ์ครั้งแรก กรุงเทพธุรกิจ ฉบับเสาร์สวัสดี
ณ บริเวณนี้ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของกองพล 93 ซึ่งเป็นกองพลของนายพลหลี่หมี นายพลจากประเทศจีนที่เข้ามาช่วยไทยร่วมรบกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) บนยอดดอยจะมีศาลาที่สร้างอุทิศให้นายพลหลี่หมีตั้งอยู่
ณ บริเวณนี้ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของกองพล 93 ซึ่งเป็นกองพลของนายพลหลี่หมี นายพลจากประเทศจีนที่เข้ามาช่วยไทยร่วมรบกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) บนยอดดอยจะมีศาลาที่สร้างอุทิศให้นายพลหลี่หมีตั้งอยู่
ส่วนที่พักด้านบนนั้นจะมีลานให้กางเต็นท์ได้ แต่ถ้ามาในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวราวเดือน ธันวาคมก็จะมีชาวบ้านขึ้นมาขายอาหาร (ถ้าไม่ได้มาช่วงเทศกาลก็อาจจะหายากหน่อย) อาหารที่ไม่น่าพลาดเลยก็คือขาหมู และหม่านโถว เรียกได้ว่า ใครมาที่ผาตั้งแล้วไม่ได้กินอาหารสองอย่างนี้ ก็เหมือนกับว่าไม่ได้มาดอยผาตั้งอย่างแท้จริงเลยทีเดียว ทว่าหากใครมาแล้วไม่ได้เตรียมเต็นท์มาก็มีชาวบ้านนำเต็นท์มาให้เช่าด้วย แต่ใครที่อยากจะนอนพักในสถานที่ที่มีความสะดวกสบายหน่อย ก็จะมีที่พักไว้บริการในราคาคืนละ 500 – 700 ไว้บริการที่ด้านล่าง ห่างจากจุดชมวิวและจุดกางเต็นท์ไม่เกิน 2 กิโลเมตร
ผมได้ความรู้จากเพื่อนผู้ร่วมทางว่า ดอยผาตั้งนั้นแท้จริงแล้วมิได้อยู่ตรงผาบ่องหรือช่องเขาขาด หากอยู่ตรงด้านนอก คือเมื่อเราเดินทางเข้ามาจากเส้น ปางหัด – ดอยผาตั้งราว 5 กิโลมองทางขวามือเราจะเห็นดอยลูกหนึ่งมีลักษณะเป็นผาตั้งอยู่นั้นหละคือดอยผาตั้งที่แท้จริง ส่วนที่เราเรียกว่าดอยผาตั้งรวมๆ กันนั้นก็มาจาก วันนัดพบ 10 ธันวาคม 2513 กำลังจากกองทัพ 3 และ 5 ได้เดินทางโดยรถยนต์ ทหารไทยเข้าสู่ดอยยาว ดอยผาหม่น ดอยหลวง เพื่อจัดตั้งหมู่บ้านแม่แอบ และ "บ้านผาตั้ง" ซึ่งอยู่ในเขตอิทธิพลของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) และต้องทำการรบราฆ่าฟันกันจนบ้านเมืองสันติสุข กลายมาเป็นผาตั้งจึงเริ่ม "ตั้ง" กันตั้งแต่ปี 2513 เป็นต้นมา
นอนพักเล่นที่ดอยผาตั้งซักคืนสองคืน ดูทะเลหมอกในยามเช้าและทะเลดาวในยามราตรีแล้วค่อยออกเดินทางกันต่อ
จากดอยผาตั้งวิ่งรถกลับลงดอยมาทางเก่า ตรงแยกปางหัดมีทางไปอำเภอเทิงไปตามทางเรื่อยๆ จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 1155 จนถึงทางแยกขวาขึ้นสู่ภูชี้ฟ้าถ้ามารถโดยสารให้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางสายเชียงราย-เทิง ลงรถที่อำเภอเทิง (ถ้าจะไปดอยผาตั้งก็ให้ลงที่แยกปางหัด) จากนั้นเช่ารถขึ้นไปภูชี้ฟ้า
แต่ผมไม่แนะนำคือถ้าไปกันมากกว่าสิบคนไม่เป็นไร
แต่ถ้ามาน้อยคนค่าเหมารถก็เท่ากับเหมาทั้งคัน
(ต่อคันสามารถโดยสารได้ไม่เกิน 12 คน) ราคาจะอยู่ที่ 1,200 – 1,500
บาทต่อคัน ที่ผมอยากจะแนะนำก็คือ ถ้ามาในช่วงเทศกาลให้จองที่พักล่วงหน้า
แล้วสอบถามทางที่พักนั้นว่ามีบริการรับส่งขึ้นลงภูหรือไม่
ส่วนมากจะมีแล้วราคาก็ประหยัดกว่าที่จะต้องเหมารถจากด้านล่างขึ้นภูมาก
แทบจะเรียกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว
ส่วนการเดินทางขึ้นไปดูทะเลหมอกที่ภูชี้ฟ้านั้นควรจะเริ่มออกเดินทางจากที่พัก (ถ้าพักบนภูชี้ฟ้า)
ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นคือราวๆ 6
โมงเพราะทางที่จะขึ้นไปบนภูนั้นไม่มีทางรถมีแต่ทางเดินสูงชันยาวร่วม 800
เมตร
ทว่าเมื่อไปถึงแล้วทะเลหมอกยามพระอาทิตย์ขึ้นก็ทำให้ความเหนื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้งได้
(ขนาดผมไปช่วงปลายฝนต้นหนาวแท้ๆ ยังหนาวเย็นและมีทะเลหมอกแลดูสวยงามแล้ว
คิดดูว่าถ้ามาหน้าหนาวจะหนาวเย็นและสวยงามขนาดไหน)
ดั่งจะเห็นได้ว่าเวียงแก่นนี้ แม้จะที่มีเนื้อที่ไม่ใหญ่นักประมาณ 526 ตารางกิโลเมตร ทว่ากลับประกอบไปด้วยชนชาติหลากหลายเผ่าพันธุ์ ที่สำคัญยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่สวยงามอย่างที่ผมกล่าวไว้แต่ต้น ถ้าจะให้กล่าวอย่างไม่เกินความจริงก็ได้ว่า เอาเฉพาะเที่ยวไปตามแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอเวียงแก่นอย่างเดียว 5 วันก็เที่ยวไม่ครบทุกที่แล้ว
- บ่วงรักเทพบุตรมาเฟีย บทนำ
- บ่วงรักเทพบุตรมาเฟีย ตอนที่ 1
- เล่ห์วิวาห์เจ้าชายมาเฟีย บทนำ
- เล่ห์วิวาห์เจ้าชายมาเฟีย ตอนที่ 1
“บ้านนักเขียน”
ยินดีเป็นส่วนหนึ่งของนักเขียนและนักอ่านทุกท่าน หากถ้าหากนักเขียน
นักอ่าน สำนักพิมพ์มีความประสงค์ที่จะโฆษณาประชาสัมพันธ์งานเขียน
ข่าวคราวเกี่ยวกับหนังสือของตนเองหรือของผู้อื่น กรุณาส่งรีวิว ไฟล์ภาพ
และรายละเอียดหนังสือหรือข่าวที่จะให้ประชาสัมพันธ์นั้นๆ มาที่ “บ้านนักเขียน” หรือที่ admin@bannakkhian.com และอย่าลืมแวะเข้าไปเยี่ยมกันที่ “บ้านนักเขียน” กันบ้างนะครับ ใครต้องการเขียนเรื่องสั้น นิยาย บทกวี ฯลฯ ทาง “บ้านนักเขียน” ได้เปิดพื้นที่ให้นักเขียน นักอยากเขียนทุกท่านได้โชว์ผลงานผ่าน “บอร์ดนักเขียน” ไม่แน่หากผลงานของท่านเข้าตาบรรณาธิการสำนักพิมพ์ วงวรรณกรรมก็อาจจะมีนักเขียนดีผลงานเด่นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนก็ได้ ขอบคุณครับ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น